แสงไฟสื่อความหมาย


ในหลายๆครั้งที่คนทั่วไปคิดถึงการให้แสงสว่าง พื้นที่เช่น สวน พลาซ่า ทางเดิน ถนนหรือบริเวณสาธารณะ ก็มักจะมีแนวโน้มที่จะให้แสงสว่างมากเกินไป โดยมักคิดว่าให้พื้นที่สว่างยิ่งมากก็จะยิ่งดี แต่ในความจริงแล้วการให้แสงสว่างมากเกินไป หรือน้อยเกินไปนั้นก็ล้วนแล้วแต่ไม่ถูกต้อง

หลักการให้แสงสว่างที่ดีนั้น แท้จริงแล้วจะต้องเชื่อมโยงแสงไฟให้สัมพันธ์กับรูปแบบการใช้ของแต่ละพื้นที่นั้นๆ เพราะลักษณะการให้แสงสว่างที่ต่างกัน เช่น ตำแหน่งการวางโคมไฟ ระยะห่าง ระดับความสว่าง สีของแสง นั้นมีผลต่อการใช้งาน และการรับรู้ทางอารมณ์ สื่อสารความหมายไปยังผู้ใช้ได้

บริเวณป้ายรถประจำทาง สถานีรถไฟ ประตูเข้าออก หากมีระดับความสว่างสูง จะทำให้ ผู้คนที่มาใช้งานรู้สึกมีความปลอดภัย

การให้แสงพื้นที่ขอบเขต มุม หรือรั้วกั้น ช่วยบ่งชี้ถึงบริเวณอาณาเขต และช่วยสร้างการรับรู้ไปยังพื้นที่ต่อเนื่องภายในอาณาเขตนั้นๆ

การส่องสว่างจุดดึงดูดความสนใจเช่น รูปปั้น งานศิลปกรรม น้ำพุ ซุ้มประตู ก็จะมีการให้แสงสว่างในระดับมากกว่าพื้นที่ข้างเคียง รวมถึงการคำนึงถึงแสงและเงาเพื่อสื่อสารถึงเรื่องราว แสงจะดึงความสนใจจากสายตาให้มองไปก่อน และเงาจะช่วยตรึงสายตาให้หยุดนิ่งและจินตนาการ

บริเวณถนนที่รถยนต์พาหนะสัญจร จะติดตั้งโคมไฟถนนในระดับสูง และมีระยะห่างระหว่างดวงโคมมาก แม่บริเวณถนนของรถยนต์นี้ เชื่อมกับพื้นที่ทางเดินสำหรับบุคคล ก็จะต้องติดตั้งแสงไฟที่ความสูงและระยะระหว่างโคมไฟลดลง เพื่อสื่อสารให้ผู้ใช้รถยนต์ได้ทราบว่าพื้นที่ได้เปลี่ยนจากบริเวณสำหรับรถยนต์เป็นบริเวณสำหรับคนเดิน ซึ่งทำให้ต้องลดความเร็วลง

ฉะนั้นการออกแบบการส่องสว่างที่ดีนั้นนั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์เพียงเพื่อต้องการจะให้แสงสว่างเพื่อการมองเห็นเท่านั้น แต่จะต้องพิจารณารวมไปถึงการสร้างการรับรู้ การเน้นย้ำ รวมถึงสื่อสารเรื่องราวได้อีกด้วย

ดูรายละเอียดสินค้า

หรือโทรศัพท์สอบถาม 02-4378955, 02-4378628

Posted in Blog

พิมพ์